หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองชะตากรรม Tether Limited หลังครบกำหนดที่ต้องยื่นเอกสารให้กับสำนักงานอัยการนิวยอร์กเมื่อวันที่ 15 ม.ค.
ขณะที่คนส่วนใหญ่เตรียมพักผ่อนมีความสุขในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่สำหรับ Tether Limited บริษัทที่ออกstablecoin อย่าง USD Tether หรือที่รู้จักกันดีในนาม USDT กลับเป็นสุดสัปดาห์ที่หนักหน่วง เพราะเผชิญกับเส้นตายที่ต้องยื่นเอกสารตามที่สำนักงานอัยการนิวยอร์กร้องขอ
หลายฝ่ายมองว่าความหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จักทำให้ Stablecoin ได้รับการจับตามองจากภาครัฐ โดย Stablecoin อันดับ 1 อย่าง Tether ตกเป็นเป้าใหญ่ของการตรวจสอบจากภาครัฐ รวมถึงข้อครหาด้านการตรวจสอบบัญชี ซึ่งปัญหาดังกล่าวสร้างผลกระทบปั่นป่วนให้กับ Tether มาแล้ว 2-3 ปี เรียกได้ว่าเป็นปัญหายืดเยื้อคาราคาซังที่เสมือนเครื่องเตือนความจำต่อตลาดการเงิน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาข้อมูลตัวเลข เป็นที่น่าสังเกตว่า USTD มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าทั้งหมดของตลาดบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลหลักอื่นๆ ในตลาด ขณะที่การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพล็ตฟอร์มคริปโตชั้นนำส่วนใหญ่ก็ตรึ่งราคาคริปโตเคอร์เรนซี่กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่า USTD ดังนั้น การดำเนินการทางกฎหมายกับ Tether ดังกล่าวจึงทำให้หลายฝ่ายมองว่าไม่น่าจะมีผลต่อภาพรวมของตลาดคริปโตมากนัก
ขณะเดียวกัน การมาถึงของรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การบริหารงานของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นี้ กลายเป็นความหวังว่า ทางสำนักงานอัยการนิวยอร์กจะมีแนวทางที่ยุติธรรมและตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงในการจัดการคดีความดังกล่าว ขณะที่ทาง Tether เองก็ออกมายืนกรานว่า stablecoinของตนสามารถแลกเปลี่ยนคืนเงินทุก USTD ด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐได้
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า วงการคริปโตต่างคาดหวังให้ในปี 2021 นี้ ทางTether จะสามารถดำเนินการอย่างโปร่งใสมากขึ้นเพื่อที่จะขจัดข้อสงสัยต่างๆ ทั้งหมดในคราเดียว
SOURCE
https://www.supercryptonews.com/tether-nyag/