ค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นบนเน็ตเวิร์กของ Ethereum (ETH) ได้แซงหน้าค่าธรรมเนียมของ Bitcoin (BTC) ติดต่อกันเป็นเดือนที่สองแล้ว
Messari บริษัทรวบรวมข้อมูลคริปโตเคอเรนซี่ได้ทวีตประกาศว่า ขณะนี้ค่าธรรมเนียมบนเน็ตเวิร์กของ Ethereum นั้นมีมูลค่ามากกว่าค่าธรรมเนียมของ Bitcoin ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง และนี่เป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดที่เคยเกิดขึ้น
ค่าธรรมเนียมของ ETH ได้พุ่งขึ้นตั้งแต่ในช่วงเดือนสิงหาคมจากการมาของกระแส DeFi ที่ก่อให้เกิดความต้องการใช้เน็ตเวิร์กของ ETH มีมากเกินกว่าที่ระบบจะรับได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาการธรรมธุรกรรมที่ล่าช้าและค่าธรรมเนียมก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
อ่านเพิ่มเติม: ค่าธรรมเนียม Ethereum สูงเสียดฟ้า รายได้นักขุดพุ่งถึง 27 ล้านบาทต่อชั่วโมง!
โดยค่าธรรมเนียมในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2 ดอลลาร์ต่อหนึ่งการทำธุรกรรม แม้จะลดลงมาจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 14 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงมากอยู่ดี
แม้ทาง Ethereum กำลังเร่งพัฒนาการอัพเกรดเป็น ETH 2.0 โดยเปลี่ยนระบบเป็น Proof-of-Stake เพื่อเพิ่มความเร็วและการขยายตัวของเน็ตเวิร์ก แต่ในระหว่างที่ ETH 2.0 ยังไม่พร้อมจะออกใช้งาน ทางทีมพัฒนา Ethereum ก็ต้องเร่งหามาตรการอื่น ๆ มาช่วยบรรเทาปัญหารถติดให้ได้เสียก่อน
ล่าสุด EIP-1559 ที่เสนอให้ Ethereum หันมาใช้ค่าธรรมเนียมแบบตายตัวที่เรียกว่า BASEFEE โดยมีทิปเล็กน้อยให้แก่เหล่านักขุด และจะมี ETH จำนวนหนึ่งถูกทำลาย (Burn) จาก BASEFEE ตามอัตราส่วนความหนาแน่นของเน็ตเวิร์กในขณะนั้น ๆ
การเปลี่ยนระบบคำนวนค่าธรรมเนียมเช่นนี้แม้จะไม่ช่วยให้ค่าธรรมเนียมถูกลง แต่มันก็จะช่วยให้ค่าธรรมเนียมไม่พุ่งขึ้นสูงเกินความเป็นจริงจากการที่ผู้ใช้ต้องคอยเสนอราคาที่สูงกว่าให้แก่นักขุดเพื่อให้ธุรกรรมของพวกเขาถูกนำไปใส่ในบล็อกถัดไปก่อนคนอื่น
นอกจากนี้ การเผาเหรียญจาก BASEFEE จะช่วยให้ซัพพลายของ Ethereum ไม่ออกมามากจนเกินไป เป็นส่วนหนึ่งของการพยายามควบคุมอัตราเฟ้อของ ETH นั่นเอง
แน่นอน มีนักขุดบางส่วนออกมาต่อต้านระบบใหม่นี้ เนื่องจากมันจะทำให้รายได้ของพวกเขาที่มาจากค่าธรรมเนียมถูกจำกัดให้อยู่ในกรอบแคบ ๆ เท่านั้นแม้ว่าจะมีความต้องการใช้เน็ตเวิร์กสูงขึ้นขนาดไหน เราก็จะไม่ได้เห็นค่าธรรมเนียมแบบแพงสุดกู่อีก
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: อัพเดทความคืบหน้า Ethereum 2.0 และ Layer 2 Solution แก้ปัญหาความเร็วของเน็ตเวิร์ก