เหล่าผู้ใช้ OKEx หนึ่งในเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกต้องเจอกับปัญหาน่าปวดหัวหลังทางเว็บเทรดทำการระงับการถอนเงินคริปโตออกจากเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลามคมที่ผ่านมา จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมากว่าสองสัปดาห์แล้ว อะไรคือปัญหาที่ทำให้มันล่าช้าขนาดนี้?
ก่อนหน้านี้ SuperCryptoNews ได้สรุปไทม์ไลน์ดราม่าของ OKEx สั้น ๆ ให้เข้าใจใน 8 ข้อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ออกมาจากทาง OKEx อีก เว้นแต่จะมีข่าวลือที่ว่าทาง Exchange ใช้ระบบกระเป๋าสตางค์แบบ Single-Signature (มีผู้ถือกุญแจเพียงคนเดียวที่มีอำนาจในการเข้าถึงคริปโตทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้) อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวดูเหมือนจะไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ทาง OKEx เคยรายงานขั้นตอนการเก็บรักษาคริปโตเคอเรนซี่ของลูกค้าไว้เมื่อตอนที่เกิดเหตุการณ์ 51% Attack ต่อเน็ตเวิร์กของ Ethereum Classisc (ETC) ไว้ว่า ทาง Exchange จะทำการเก็บเงินของลูกค้าเกือบทั้งหมด (95%) ไว้ใน Cold Wallet โดยมีรายละเอียดที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ดังนี้
ทาง OKEx จะทำการสร้าง Private Key หนึ่งหมื่นชุดและทำการเข้ารหัสมันด้วยระบบ Advanced Encryption Standard (AES) โดยจะมีผู้ถือรหัสสำหรับใช้ระบบ AES นี้เพียงสองคนเท่านั้น โดยคนหนึ่งจะประจำอยู่ที่ออฟฟิศในกรุงปักกิ่ง (คาดว่าจะเป็นนาย Xu Mingxing ที่ถูกทางการจีนควบคุมตัวไป) และอีกคนหนึ่งจะประจำอยู่ในเมืองทางภาคตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อต้องการถอนสินทรัพย์ที่เก็บไว้ใน Cold Wallet ออกมา พนักงานของ OKEx จะไปเบิก Private Key ที่ถูกเข้ารหัสไว้จากเซฟของธนาคาร จากนั้นจะทำการสแกน QR Code ของ Private Key นั้นเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต แล้วจึงให้ผู้มีอำนาจใช้งานระบบ AES ทำการถอดรหัส และส่ง Private Key ที่ถูกถอดรหัสแล้วไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตเช่นกัน
จากนั้นก็ถึงขั้นตอนแสนลึกลับที่ทาง OKEx ไม่ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนเท่าไหร่นักคือ “ทำการเซ็นชื่อยืนยันการทำธุรกรรมนั้น ๆ บนคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต จากนั้นเมื่อรายการธุรกรรมได้ซิงค์กับอินเตอร์เน็ตแล้วจะทำการเผยแพร่ธุรกรรมนั้น ๆ ผ่าน USB ไดรฟ์”
อ่านขั้นตอนทั้งหมดได้ที่นี่: https://www.okex.com/wallet-security
อย่างไรก็ตาม จากขั้นตอนดังกล่าวที่อธิบายไว้บนเว็บไซต์ของ OKEx จะเห็นได้ว่า แม้นาย Mingxing จะถูกควบคุมตัวอยู่ แต่ก็ยังมีผู้ที่สามารถใช้ระบบ AES ได้อีกคนในประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วทำไมจึงยังไม่สามารถเปิดให้ลูกค้าถอนเงินได้อีกกันแน่?
หนึ่งในคำอธิบายที่สมเหตุสมผลอาจจะเป็นการที่ทาง OKEx กลัวว่าถ้าหากเปิดให้ทำการถอนเงินก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะถูกเคลียร์และลูกค้ามั่นใจได้ว่าทาง OKEx ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือกระทำการผิดกฎหมายใด ๆ แล้วล่ะก็ ลูกค้าจำนวนมากจะแห่กันถอนเงินคริปโตของพวกเขาออกจาก OKEx พร้อม ๆ กันเป็นจำนวนมหาศาล และนั่นอาจก่อให้เกิดวิกฤตที่ทำให้ทางเว็บเทรดขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงจนถึงขั้นไม่สามารถปฏิบัติงานได้เลยทีเดียว
แม้นี่จะไม่ใช่ความคืบหน้าอะไรใหม่ แต่ทาง SuperCryptoNews ก็หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจถึงการทำงานและเหตุผลของทาง OKEx มากขึ้น และอย่าลืมสิ่งคำสัญที่สุด “Not Your Keys, Not Your Bitcoin!”