การปราบปรามการขุดบิทคอยน์ในประเทศจีนได้ลดอัตราการแฮช (hash rate) ภายในประเทศลงอย่างมาก โดยลดลงจากมากกว่า 75% เป็น 46% ของทั้งหมดทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ข้างต้นที่เกิดขึ้นนี้ยังสามารถทำให้เกิดระลอกคลื่นที่อาจทำให้ผลกระทบโดยรวมที่การขุดบิทคอยน์มีต่อสิ่งแวดล้อมรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ การปราบปรามทำให้บรรดานักขุดบิทคอยน์จำนวนมากย้ายฐานปฏิบัติการไปที่อื่น อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียคือ ทางเลือกอื่นอาจไม่สะอาดเท่าประเทศจีน
รายงานระบุว่า สาธารณรัฐคาซัคสถานในเอเชียกลางได้อันดับที่ 3 ในส่วนแบ่งของอัตราแฮชทั่วโลก โดยจีนและสหรัฐฯ เป็นผู้นำลำดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งคาซัคสถานนี้ ส่วนใหญ่อาศัยน้ำมันเป็นแหล่งพลังงานหลัก โดยคิดเป็น 87% ของการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งอัตราการขุดเหมืองในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 1.4% ในเดือนกันยายน 2019 เป็น 8.2% ในเดือนเมษายน 2021
ในมุมมองของ Alex de Vries ผู้ควบคุมดูแล Digiconomist แพลตฟอร์มข้อมูลที่ไม่คาดคิดของแนวโน้มดิจิทัลจากมุมมองทางเศรษฐกิจ กล่าวว่าปริมาณพลังน้ำที่ใช้ในประเทศจีนสำหรับการขุดบิทคอยน์นั้นเพียงพอที่จะถ่วงดุลผลกระทบของการขุดบิทคอยน์ที่ขับเคลื่อนด้วยถ่านหินในประเทศจีนและส่วนอื่น ๆ ของโลก
ทั้งนี้ การปราบปรามในประเทศจีนได้ขจัดพื้นที่การผลิตบิทคอยน์ ที่สะอาดเพียงไม่กี่แห่งในโลก ทำให้ผลกระทบของบิทคอยน์ต่อภาวะโลกร้อนในระยะยาวแย่ลง โดยหันมาใช้ถ่านหินแทน