กลุ่มเฝ้าระวังและนักสังเกตการณ์ตลาดคริปโตพบประเด็นน่าสงสัยใน SafeMoon เนื่องจากลักษณะที่แปลกแตกต่างจากปกติในแง่ที่ว่าผู้ใช้งานจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 10% ในการซื้อหรือขายโทเค็น
โดยค่าธรรมเนียมครึ่งหนึ่งถูกใช้เพื่อจูงใจให้เจ้าของถือต่อไป ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะเข้าสู่กลุ่มสภาพคล่องที่ดำเนินการโดยบรรดานักพัฒนา
ทั้งนี้ SafeMoon ขนานนามตัวเองว่าเป็นโทเค็น DeFi ซึ่งใช้การเงินแบบกระจายอำนาจเพื่อควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ผ่านซอฟต์แวร์ แต่ก็มีตำแหน่ง CEO และ COO กำกับ
กลุ่มเฝ้าดูคริปโตที่พบว่า SafeMoon นั้นน่าสงสัยต่างก็กังวลเกี่ยวกับลักษณะการตัดสินใจของการเบิร์นเหรียญแบบใช้มือเพื่อปรับการหมุนเวียนของมันนี้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ เช่นเดียวกับตัวแพลตฟอร์มที่มีสัญญาณอันตราย (red flags)อื่นๆ ที่ผู้คนพบว่าสินทรัพย์คริปโตนั้นน่าสงสัย
“คู่มือการเบิร์น ควบคู่กับบริษัทที่มีสัดส่วนการถือหุ้นค่อนข้างมากในเหรียญ เพียงแค่พูดถึงความเสี่ยงจากการยักย้ายถ่ายเท เมื่อใดก็ตามที่มีกลไกบางอย่างในการหยุดขาย นั่นเป็นสัญญาณเตือนเล็กน้อย”
Jasper Lawler หัวหน้าฝ่ายวิจัยที่ London Capital Group กล่าว
ด้าน Dave Portnoy ผู้ก่อตั้ง Barstool Sports Inc. ไม่ได้ถูกขัดขวางจากred flags แม้จะกล่าวว่า SafeMoon อาจเป็นโครงการ Ponzi ก็ตาม โดยที่จริงแล้ว Portnoy เปิดเผยว่าตนเองได้ซื้อ SafeMoon มูลค่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐบน Twitter ซึ่งราคาของ SafeMoon มีการปรับเพิ่มขึ้น 18% ภายในหนึ่งชั่วโมงแต่หลังจากนั้น Portnoy ยังคงเป็นเจ้าของ SafeMoon หรือไม่ยังคงเป็นปริศนาในตอนนี้
ขณะที่ Jack Purdy นักวิเคราะห์วิจัยอาวุโสของ Messari Inc. ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเสี่ยงรอบ ๆ SafeMoon ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือ SafeMoon ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักลงทุนในการซื้อและถือไว้เพื่อรับรางวัลแบบพาสซีฟผ่าน Purdy ระบุว่า SafeMoon มีความแตกต่างในลักษณะที่ “ไม่ได้พยายามปิดบังความจริงที่ว่าระบบทำงานอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม John Karony ซีอีโอของ SafeMoon ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าโทเค็นนั้นเป็นโครงการ Ponzi โดยกล่าวว่าเขาได้วางทุกสิ่ง — ตัวตน ความน่าเชื่อถือ และทั้งหมด — อยู่ในสายของ SafeMoon