เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาได้เข้าหารือร่วมกับผู้นำในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลเกี่ยวกับความท้าทายด้านกฎระเบียบ รวมถึงการควบคุมดูแลสินทรัพย์เงินดิจิทัล
ทางด้านนาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวในการประชุมว่า สหรัฐฯยินดีที่จะรับนวัตกรรมที่มีศักยภาพเข้ามาเพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบการเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่เขาก็ยังเน้นถึงความจำเป็นในการที่จะต้องทำให้แน่ใจว่านวัตกรรมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
โดยนาย Mnuchin ได้กล่าวต่อไปว่า “เราจะต้องมั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมใหม่ ๆ กับการปกป้องความมั่นคงของชาติและระบบการเงินของเราไว้ได้”
กระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาเผยว่า กระทรวงฯได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันการใช้สินทรัพย์เงินดิจิทัลในการฟอกเงิน จัดหาเงินทุนสนับสนุนผู้ก่อการร้าย และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย โดยทางด้านหน่วยงานกำกับดูแลได้บอกเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯนั้นจะอยู่ในระดับแนวหน้าด้านกฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัล และจะไม่ให้มีการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเป็นอันขาด
ขณะเดียวกัน ทางด้านเจ้าหน้าที่กำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐอเมริกาหลายคน ก็ได้ออกมาเตือนให้มีความระมัดระวัง หรือแม้กระทั่งแสดงการต่อต้านการใช้สกุลเงินดิจิทัล โดยเมื่อช่วงปีที่แล้วนาย Mnuchin เองก็ได้ออกมายืนยันว่า การฟอกเงินผ่านเงินสดนั้นมีไม่มากเท่ากับการฟอกเงินด้วยบิทคอยน์
นาย Steven Mnuchin และภรรยา เข้าชมธนบัตรสหรัฐฯที่พึ่งพิมพ์เสร็จใหม่ ๆ Image Source: Fortune.com
ในเดือนธันวาคม 2019 ที่ผ่านมา สมาชิกของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้ออกมากล่าวว่า 1 ใน 4 ของผู้ใช้บิทคอยน์นั้นเป็นอาชญากร และธุรกรรมบิทคอยน์กว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ความเชื่อเหล่านี้ส่งผลทำให้บริษัทการเงินหลาย ๆ แห่งพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการข้องเกี่ยวกับสินทรัพย์เงินดิจิทัล
โดยเมื่อไม่นานมานี้นาย Justin O’Connell ผู้ก่อตั้งบริษัทสื่อสารด้านบล็อกเชน กล่าวว่า การที่ธนาคารหลายแห่งไม่อำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลนัก มีสาเหตุจากการที่พวกเขาเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่นั้นใช้สำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นเอง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: KPMG เผย ตั้งแต่ปี 2017 มีเงินคริปโตฯถูกขโมยไปแล้วเป็นมูลค่าเกือบหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์