ในช่วงที่เศรษฐกิจและตลาดการลงทุนทั่วโลกยังมีความผันผวนสูงจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีนั่นคือ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีโอกาสเติบโตและเป็นหนึ่งใน New Normal ได้ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
Bitcoin แซงทองคำขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอันดับหนึ่งของปีนี้แล้ว
ปีนี้ถือเป็นปีพิเศษสำหรับบิทคอยน์ เนื่องจากครบวาระที่เกิด Bitcoin Halving ซึ่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทุกครั้งที่เกิดการ Halving นักลงทุนจะคาดหวังถึงราคาที่ปรับตัวขึ้นทุกครั้ง
แต่วิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็น Safe Haven จากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อพยุงเศรษฐกิจและตลาดเงิน อัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งสูงขึ้นและสภาพคล่องที่ล้นโลกจะเป็นแรงส่งให้บิทคอยน์ทะยานได้ไกล
ล่าสุดบิทคอยน์ได้เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) แซงหน้าทองคำเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตลาดหุ้นเกือบทั้งโลกยังอยู่ในแดนลบ นี่คือเหตุผลที่ควรจะติดบิทคอยน์ไว้ในพอร์ตการลงทุนประจำปีนี้
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : เริ่มแล้ว!! Bitcoin ยุค 4.0 หลังการ Halving ครั้งที่สามจบลง
Altcoin ใหม่ๆสตอรี่น่าสนใจให้เทรดอีกมาก
นอกจากบิทคอยน์ยังมีเหรียญทางเลือก (Altcoin) ให้เลือกลงทุนอีกไม่น้อย โดยเฉพาะ Ethereum ที่กำลังอัพเกรดเป็น ETH2.0 รวมถึงเป็น Engine หลักของโปรเจคต์ Defi (Decentralize Finance) ที่ล่าสุดมาร์เกตแคปรวมแตะ 1,000 ล้านดอลลาร์ ไปแล้ว
รวมถึง Chainlink (LINK) เหรียญทางเลือกหน้าใหม่ที่มาแรงตั้งแต่ปีที่แล้วที่มาร์เกตแคปเติบโตอย่างต่อเนื่องจนเบียด Ripple ตกอันดับกลุ่มนำใน Top Altcoin ในที่สุด เช่นเดียวกับเหรียญที่มาจาก Exchange ดังอย่าง BNB,OKB ที่เติบโตเร็วจากกระแสการลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัล ที่เติบโตขึ้น
รวมๆแล้วนอกจากบิทคอยน์ยังมี Altcoin หลายตัวที่น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้และปีต่อๆไป โดยสามารถใช้ดัชนี SCN30 Index ในการอ้างอิงการลงทุนใน Altcoin ได้ สามารถอ่านบทวิเคราะห์ได้ทุกสัปดาห์ที่นี้
Tokenize ในสินทรัพย์ใหม่ๆ
นวัตรกรรมการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ กำลังเป็นกระแสที่มาอย่างเงียบๆ แต่เร็วๆนี้มีโอกาสที่จะเข้าสู่การลงทุนกระแสหลักได้เช่นกัน หากโลกในยุคหลังโควิด-19 คนทั้งโลกเข้ามาอยู่ในโลกดิจิทัลมากขึ้น
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือในวงการกีฬาฯเริ่มที่จะมีการสร้างโทเคนขึ้นและนำมาซื้อขายในกระดานเทรดอย่าง chiliz.net รวมถึงแนวคิดที่จะสร้างโทเคนที่อ้างอิงกับตัวนักกีฬาจริงๆ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : โทเคนทีมฟุตบอลยูเวนตุส (JUV) เปิดให้แฟน ๆ ซื้อขายแล้ว
การ Tokenize สามารถทำได้กับสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้หรือพวกทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ต่อไปจะสามารถตีมูลค่าได้แล้ว ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เข้ามาเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน
การมาของ STO และ Investment token
แม้จะดูเงียบไปบ้างสำหรับเรื่องของโทเคนที่มีสินทรัพย์จริงหนุนหลังหรือ STO (Securities Token Offering) แต่หลายๆประเทศโดยเฉพาะในยุโรปกำลังผลักดันกฎหมายให้ออกมารองรับ STO กันอย่างต่อเนื่อง
ในภาวะที่ตลาดการลงทุนทั่วโลกเงียบเหงาจากวิกฤติโควิด-19 โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยหรือค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง อาจมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นโอกาสของการลงทุนแบบ STO ที่จะเข้ามาเติมเต็มได้
จุดเด่นของ STO คือการลงทุนที่ไปได้ทั่วโลก เรามีโอกาสที่จะลงทุนในสินทรัพย์ดีๆทั่วโลกได้ โดยไม่มีอุปสรรคทางด้านพรมแดนอีกต่อไป
สำหรับประเทศไทย แม้เรื่องของ STO อาจจะต้องถกเถียงกันอีกมากในแง่ของกฎหมาย แต่เบื้องต้นนักลงทุนสามารถลงทุนผ่าน Investment Token ซึ่งมีสินทรัพย์จริงหนุนหลัง แต่ผู้ลงทุนได้สิทธิได้ผลประโยชน์ของสินทรัพย์นั้นๆ เช่น เงินปันผล แทนที่จะเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ ซึ่งต้องไปแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ซึ่งใช้เวลานาน
โลกการเงินหลังวิกฤติโควิดจะเปลี่ยนแปลงไปอีกมาก รวมถึงโลกของการลงทุนด้วยเช่นกัน สินทรัพย์ดิจิทัล มีโอกาสที่จะแจ้งเกิดได้ในยุคที่ทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้หมดแล้ว
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : การมาของ “หยวนดิจิทัล-ลิบรา” เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตคนไทย เราควรเรียนรู้อะไรจากมัน