DeFiMarketCap เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลด้านโปรเจกต์การเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi เผยให้เห็นว่า หลังจากที่ตลาดคริปโตฯถูกเทขายอย่างหนักในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มาร์เก็ตแคปของโทเคนต่าง ๆ ภายใต้โปรเจกต์ DeFi ทรุดตัวลงอย่างหนัก รวมถึงส่งผลต่อสภาพคล่องในโปรเจกต์ดังอย่าง MakerDAO อีกด้วย
แต่ล่าสุด มูลค่าตลาดรวมของโปรเจกต์ DeFi เริ่มฟื้นตัวกลับมาแตะระดับ 1,000 ล้านเหรียญอีกครั้ง โดย ณ ขณะที่รายงาน มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
DeFiMarketCap ยังให้ข้อมูลอีกด้วยว่าปัจจุบันมีโปรเจกต์ด้าน DeFi ที่ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องประมาณ 246 โปรเจกต์ โดยโทเคนสามอันดับแรกครองมูลค่าตลาดเกินกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ประกอบไปด้วย MakerDAO (MKR) 28% โปรเจกต์ 0x (ZRX) 16% และ Synthetix Network Token (SNX) 11% ตามลำดับ
ด้าน Defi Pulse เว็บไซต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ DeFi เปิดเผยว่า มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกล็อคไว้บน DeFi Protocols มีมูลค่ารวมกว่า 700 ล้านเหรียญ โดย MakerDAO ครองสัดส่วนไปถึง 49%
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ใน DeFi Protocols รวมกว่า 1,000 ล้านเหรียญและมาร์เกตแคปของ MakerDao อยู่ที่ 500 ล้านเหรียญ และพุ่งทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 750 ล้านเหรียญในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้นก็ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
จนเมื่อมาถึงกลางเดือนมีนาคม มูลค่าตลาดของ Maker ร่วงหนักกว่า 44% จาก 505 ล้านเหรียญลงมาอยู่ที่ 310 ล้านเหรียญในเวลาเพียงสองวันเท่านั้น และลดลงกว่า 60% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งนี้จำนวนโปรเจกต์เกี่ยวกับบริการกู้ยืม (Lending) เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วงปีที่ผ่านมา และธุรกรรมของ DeFi ขึ้นมามีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของธุรกรรมทั้งหมดบนเน็ตเวิร์กของ Ethereum
และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา PieDAO ได้ทำการเปิดตัวกองทุน BTC++ ที่ทำงานบน Uniswap โดยเปิดทางให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างโทเคนพอร์ตฟอร์ลิโอที่สามารถรองรับทั้งคริปโตและสินทรัพย์การลงทุนทั่วไป ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 95,200 เหรียญที่ถูกล็อกไว้และอยู่ในอันดับที่ 88 ของ DeFi Protocol
อนาคตของ DeFi ดูเหมือนจะยังอีกยาวไกล เมื่อระบบการเงินแบบกระจายศูนย์จะมาแทนที่การลงทุนและการธนาคารแบบเก่า โดยคุณสมบัติที่ไม่มีตัวกลางจึงมักให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ทั้งยังมีความโปร่งใสสูงอีกด้วย
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Decentralized Finance เทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ธนาคาร?