สมาคมธนาคารสหรัฐฯ (American Bankers Association หรือ ABA) ให้ความเห็นระหว่างการรับฟังความเห็นของหน่วยงานกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการเงินของสหรัฐฯว่า การมาของเงินดิจิทัลแห่งชาติจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ Fed มีอำนาจควบคุมมากจนเกินไป
เงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางหรือ CBDCs นั้นคือเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ถูกควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จโดยธนาคารกลาง ตั้งแต่การพิมพ์เงินไปจนถึงขั้นตอนการแจกจ่าย โดยมี CBDCs ของบางประเทศที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความโปร่งใส แต่ก็มีเงิน CBDCs ของอีกหลายประเทศที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาบนบล็อกเชน
โดยทาง ABA แสดงข้อโต้แย้งว่าพวกเขาไม่ต้องการให้ Fed จัดทำเงินดิจิทัลดอลลาร์ขึ้นมา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักด้วยเหตุผลที่ว่า “การมาของดิจิทัลดอลลาร์จะทำให้ธุรกิจธนาคารเอกชนรายย่อยหมดความสำคัญและไม่สามารถไปต่อได้”
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทาง ABA ยกมาโต้แย้งนั่นก็คือ “เงินดิจิทัลดอลลาร์นั้นมีผลต่อธรรมเนียมปฏิบัติและความเป็นส่วนตัวในการใช้เงิน”
โดยการมาของเงินดิจิทัลดอลลาร์ที่ควบคุมโดย Fed นั้นจะส่งผลให้ Fed กลายมาเป็น “ผู้ผูกขาดการออกเงินตรา บัญชีธนาคาร และระบบการจ่ายเงินทั้งหมด” และจะส่งผลให้ “Fed เข้ามามีบทบาททางการเมืองและกลายเป็นจุดรวมอำนาจที่สามารถติดตามและปฏิเสธการทำธุรกรรมของใครก็ได้”
สิ่งเหล่านี้จะส่งผลแก่การซื้อสินค้าที่ถูกกฎหมายในบางรัฐ เช่น อาวุธปืน และกัญชา โดยเงินดิจิทัลดอลลาร์หน้าจะเข้ามาพัวพันและทำให้เส้นแบ่งระหว่างอำนาจรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นนั้นไม่ชัดเจน คณะ ABA ยังระบุต่อไปอีกว่า “การที่ประชาชนยังมีอำนาจในการใช้จ่ายโดยไม่ถูกจับตามองหรือตรวจสอบโดยรัฐบาลกลางนั้นถือเป็นสิทธิและเสรีภาพที่เราควรปกป้องไว้ และธนาคารเอกชนที่มีการแข่งขันกันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสิทธินั้น”
โดยทาง ABA เสนอว่า ผู้ที่จัดทำเงินดิจิทัลดอลลาร์นั้นควรเป็นทางสมาคมมากกว่าแทนที่จะให้รัฐบาลกลางเข้ามาควบคุมดูแลทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ
ก่อนหน้านี้นาย Giancarlo อดีตผู้ว่าการ CFTC ของสหรัฐฯได้เป็นแนวหน้าในการสร้างโปรเจกต์ดิจิทัลดอลลาร์ขึ้นมา กล่าวในการรับฟังของรัฐสภาในวันที่ 30 มิถุนายนว่า “ระบบธนาคารกลางในปัจจุบันนั้นมันเก่าและล้าสมัย มันถึงเวลาแล้วที่เราควรจะพัฒนา CBDC ที่มีพื้นฐานอยู่บนบล็อกเชนเข้ามาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัย”
เขายังเสริมอีกว่า “เงินดิจิทัลดอลลาร์จะทำให้การแจกจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตโควิด-19 กลายเป็นเรื่องง่าย และจะช่วยให้คนที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือคนชายขอบได้รับสิทธิเหล่านี้อย่างเท่าเทียมอีกด้วย”
โดยทางสภาฯจะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปหลังจากรับฟังเสร็จสิ้น และจะมีมติตัดสินใจออกมาอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา: Source
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: รีวิวตลาดคริปโตครึ่งแรกปี 2020 แม้ผันผวนแต่สร้างผลตอบแทนชนะ Traditional Asset