ขณะที่รัฐบาลและธนาคารกลางของสหรัฐฯออกมาตรการอัดฉีดจำนวนมหาศาลกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ มาเพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะถลำลึกลงไปในห้วงแห่งยุคเศรษฐกิจถดถอย โดยมีการหารือถึงรูปแบบเงินที่จะแจกจ่ายว่าอาจจะมาในรูปแบบของ ดิจิทัลดอลลาร์ ทางด้านธนาคารกลางของจีน ที่ซุ่มพัฒนาเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า ดิจิทัลหยวน ก็ได้มีความคืบหน้าจากโครงการโดยมุ่งหวังที่จะผลักดันออกมาใช้กับมาตรการการลดดอกเบี้ยนโยบายของประเทศ
ตามที่สื่อ The Global Times ได้รายงาน ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้สรุปถึงกรอบและหน้าที่ของเงินดิจิทัลหยวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้กำลังมุ่งพัฒนาในด้านการแจกจ่ายหมุนเวียนและการทดสอบใช้งานจริงอยู่ ในช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ยังได้มีประกาศออกมาว่า ทางธนาคารกลางจะร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเช่น Tencent, Alibaba และ Huawei เพื่อพัฒนาเงินดิจิทัลแห่งชาตินี้ให้สำเร็จโดยเร็ว
โดยระบบ Alipay จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการออกเงินดิจิทัลหยวนให้แก่ทางธนาคารกลาง โดยถือเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกที่ได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาล เนื่องจากในแผนการก่อนหน้านี้มีเพียงธนาคารกลางและธนาคารเอกชนไม่กี่แห่งที่มีอำนาจใจการออกและแจกจ่ายเงินดิจิทัลหยวนนี้ ทาง Alipay ยังได้ทำการยื่นจดสิทธิบัตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลที่คาดว่าจะนำมาใช้กับเงินดิจิทัลหยวนอีกด้วย
นาย Cao Yan กรรมการผู้จัดการของ Digital Renaissance Foundation ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเงินดิจิทัลหยวนนี้ว่า
“หากรัฐบาลจีนต้องการที่จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการกำหนดดอกเบี้ยนโยบายติดลบรวมถึงในภาคสินเชื่อเอกชนเพื่อการค้าขายด้วยแล้วละก็ การผลักดันนโยบายผ่านทางเงินดิจิทัลแห่งชาติจะสามารถควบคุมและบรรลุเป้าหมายได้ง่ายกว่าการควบคุมเงินสดจำนวนมากที่ยังไหลเวียนอยู่ในประเทศ”
ธนาคารกลางจีนช้าไปแล้วหรือไม่สำหรับการสร้าง CBDC
ความพยายามของจีนในการสร้างเงินดิจิทัลแห่งชาติถูกกล่าวถึงในวงกว้าง แต่นักวิจารณ์บางคนกลับมองว่า มันล่าช้าไปมากทั้ง ๆ ที่ธนาคารกลางของจีนเป็นหนึ่งในธนาคารกลางแห่งแรก ๆ ของโลกที่ออกมาประกาศถึงความพยายามในการสร้างเงินดิจิทัลของตนเอง แต่กลับถูกประเทศที่มาทีหลังอย่างสวีเดน กัมพูชา หรือแม้แต่เวเนซูเอลาแซงหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้ทำการทดสอบในขั้นแรกอย่างมีรูปธรรมสำเร็จลุล่วงไปแล้ว
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่แห่งตะวันตก สหรัฐฯอเมริกา กำลังถูกเล่นงานอย่างหนักจากอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นทะลุหลักหลายล้านคนและวิกฤต COVID19 ที่ยังไม่มีทีท่าที่จะบรรเทาลง ได้ออกนโยบายสู้ตายโดยการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าสู่ระบบและมีนโยบายแจกเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชน แม้ผู้เชี่ยวชาญเคยออกมาชี้ให้เห็นว่า สหรัฐฯ อาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำของโลกหากจีนสามารถก้าวขึ้นมามีอำนาจด้วยอิธิพลของเงินดิจิทัลหยวน แต่ดูเหมือนทางสหรัฐฯเองก็ไม่มีความพร้อมในด้านนี้ซักเท่าไหร่ เพราะการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนที่คาดกันว่าอาจมาในรูปแบบของดิจิทัลดอลลาร์นั้น ถูกพับเก็บไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วิกฤต COVID-19 นี้อาจเป็นโอกาสสำคัญของจีนที่จะแสดงให้เห็นพลังของเงินดิจิทัลจากธนาคารกลางที่สามารถเข้าถึงประชาชนทุกส่วนได้อย่างเท่าเทียม และลดการใช้เงินสดที่อาจเป็นการส่งต่อเชื้อร้ายได้ อย่างไรก็ตาม หากจีนยังไม่สามารถสรุปผลที่เป็นรูปธรรมออกมาได้ในเร็ววันนี้ อาจต้องเสียตำแหน่งผู้นำในการพัฒนา CBDC ให้แก่ชาติอื่น ๆ ที่กำลังตามมาติด ๆ เช่นกัน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: เจ้าหน้าที่ IMF ชี้ ข้อดี – ข้อเสีย ที่มาพร้อมกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)