- ด้วยการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ได้ปิดหนทางทำมาหากินที่บรรดาศิลปินทั้งหลายต้องพึ่งพา เช่น การจัดงานแสดงคอนเสิร์ต ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเขาเหล่านี้ควรต้องเปิดรับเทคโนโลยีอีกครั้งเพื่อให้มีเงินเข้ากระเป๋าด้วยการผ่าน NFTs หรือ non-fungible tokens
- ทั้งนี้ ศิลปินอย่าง Grimes, Katy Perry และล่าสุด BTS บอยแบนด์ชั้นนำของเกาหลีใต้ ล้วนเดินหน้าผลิต NFT เพื่อหวังโกยรายได้ด้วยการสร้างของที่ระลึกดิจิทัลที่ไม่สามารถจำลองหรือปลอมแปลงได้เช่นกัน
เมื่อครั้งที่เครื่องเล่น MP3 ปรากฎตัวออกสู่ท้องตลาด บรรดาศิลปินนักร้องหลายรายต่างมองเห็นความท้าท้ายครั้งใหญ่ที่ต้องเปลี่ยนทิศทางจากการทำเพลงออกมาเป็นแผ่นซีดีออกขาย กลายมาเป็น performer หรือผู้ที่มีความสามารถรอบด้านเพื่อใจแน่ใจว่าจะมีรายได้หลั่้งไหลเข้ากระเป๋าตนเองอย่างต่อเนื่อง
ภาวะดิสรัปทางดิจิทัล เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นในยุคของ iTunesและ Spotify ได้เปลี่ยนแหล่งรายได้แบบดั้งเดิมและเชื่อถือได้สำหรับศิลปินที่ต้องการจำนวนมาก
กระนั้น แต่การบริโภคเพลงในรูปแบบดิจิทัลยังให้โอกาสมากมายเช่นกัน เช่นการที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง YouTube ได้สร้างซุปเปอร์สตาร์ชั้นนำประดับวงการอย่าง Justin Bieber และ The Weekend
และด้วยการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ได้ปิดหนทางทำมาหากินที่บรรดาศิลปินทั้งหลายต้องพึ่งพา เช่น การจัดงานแสดงคอนเสิร์ต ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลเดียวที่พวกเขาเหล่านี้ควรต้องเปิดรับเทคโนโลยีอีกครั้งเพื่อให้มีเงินเข้ากระเป๋าด้วยการผ่าน NFTs หรือ non-fungible tokens.
ทั้งนี้ ศิลปินอย่าง Grimes, Katy Perry และล่าสุด BTS บอยแบนด์ชั้นนำของเกาหลีใต้ ล้วนเดินหน้าผลิต NFT เพื่อหวังโกยรายได้ด้วยการสร้างของที่ระลึกดิจิทัลที่ไม่สามารถจำลองหรือปลอมแปลงได้เช่นกัน
ไล่เรียงตั้งแต่ของที่ระลึกทางศิลปะไปจนถึงแฟชั่นชั้นสูง NFTs ได้สร้างกระแสทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสกุลเงินดิจิทัล
โดย Hybe Co. บริษัทที่จัดการ BTS กล่าวว่าจะลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐในบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ Dunamu เพื่อเปิดตัว NFT เช่น การ์ดภาพถ่ายดิจิทัลและของที่ระลึกดิจิทัลอื่นๆ ในธีม BTS ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมจากบรรดาอาร์มีหรือเหล่าแฟนคลับของ BTS ทั่วโลก
ขณะที่การตอบรับที่เพิ่มมากขึ้นของ metaverse น่าจะเข้ากันได้ดีกับวงดนตรีที่ปล่อย NFT เช่นกัน
ทั้งนี้ ในการพูดคุยกับสำนักข่าว Bloomberg ตัวแทนของ Hybe Co. ระบุว่า
“อีกไม่นานเราจะสามารถใช้การ์ดภาพถ่ายดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างพื้นที่เสมือนจริงด้วยอวาตาร์ของเรา และแฟน ๆ สามารถแสดงพื้นที่ดังกล่าวให้กันและกันและต่อศิลปิน”
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมเพลงและเทคโนโลยีใหม่อีกครั้ง เพื่อให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกับอนาคตโดยตรง”
ด้วยยอดขายเพลงดิจิทัลที่มีเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับซีดีที่ศิลปินเคยสามารถพึ่งพาแหล่งรายได้ได้ บวกกับการออกทัวร์คอนเสิร์ตที่มีแนวโน้มถูกลดขนาดลงหรือโดนยกเลิกทั้งหมดจึงทำให้รายได้ของเหล่าศิลปินที่เคยทำมาหากินได้คล่องตกอยู่ในสภาพวิกฤต