BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยบริษัทได้จัดการเข้าไปลงทุนบิทคอยน์แล้ว
ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่บิทคอยน์บรรลุผลสำเร็จในการผลักดันราคาจากที่อยู่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่มากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก็คือเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเชื่อมั่น และจุดเปลี่ยนสำคัญที่เกิดขึ้นอีกครั้งก็คือการที่บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง BlackRock ซึ่งบริหารจัดการสินทรัพย์ทั่วโลกรวมมูลค่าราว 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกาศเข้าร่วมการลงทุนในบิทคอยน์เรียบร้อยแล้ว
Rick Rieder ประธานเจ้าหน้าทีด้านการลงทุนของ BlackRock กล่าวให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ในวันนี้ ว่า “ผมจะไม่แสดงความเห็นหรือให้ตัวเลขเกี่ยวกับปริมาณบิทคอยน์ที่BlackRock ถือไว้ในพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเห็นดีมานต์ที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ผมจะพูดได้ก็คือ เราจำเป็นต้องก้าวเข้าไปลงทุน”
นอกจากนี้ Rieder ยังกล่าวต่อไปว่า ความรู้สึกของเจ้าตัวได้บอกว่า เทคโนโลยีและระเบียบกำหนดปฎิบัตกำลังวิวัฒน์ไปสู่จุดที่คนกลุ่มนี้คิดว่าคริปโตจำเป็นต้องมีไว้เป็นส่วนหนึ่งในพอร์คการลงทุนของตน
ทั้งนี้ ย้อนในปี 2017 ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BlackRock อย่าง Larry Fink ได้ขนานนามบิทคอยน์ว่าเป็นดัชนีฟอกเงิน หรือ “index of money laundering” ทว่า ในอีก 3 ปีต่อมา BlackRockก็ต้องกลับลำหันมาลงทุนในบิทคอยน์ นอกจากนี้ BlackRock ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MicroStrategy Inc. ซึ่งเป็น บริษัท ในสหรัฐฯที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ที่ถือครองบิทคอยน์จำนวนมาก เนื่องจากบิทคอยน์ในครอบครองที่มีมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ MicroStrategy จึงกลายเป็นเครื่องมือการลงทุน บิทคอยน์สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่จำนวนมาก
ขณะเดียวกัน การ“ ขลุกอยู่” ในบิทคอยน์ของ BlackRock ยังเกิดขึ้นหลังจากที่ BNY Mellon ประกาศเปิดตัวบริการรับฝากดูแลทรัพย์สินดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับพื้นที่สินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะที่ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทาง เทสลา ยังได้ประกาศซื้อบิทคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นการเปิดประตูให้ บริษัท อื่น ๆ เข้าร่วมชมรม “Bitcoin for Corporates”