หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียต่างหันมาหาทางประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนกันอย่างคึกคักนับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัส COVID-19
Nikkei Asian Review สื่อสัญชาติญี่ปุ่นได้เปิดเผยรายงานว่า การระบาดของ COVID-19 ได้กระตุ้นให้หลายประเทศในเอเชียหันหน้าเข้าหาเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันข้อมูลบนโลกออนไลน์ให้ปลอดภัยจากบรรดาแฮกเกอร์และเหล่าอาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย
รายงานข้างต้นมีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ของบริษัทวิจัยธุรกิจ The Business Research Company ที่ออกมาระบุว่า ตลาดอุตสาหกรรมบล็อกเชนของโลกมีแนวโน้มเติบโตแตะระดับ 15,880 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2023
โตโมฮิโระ มารุยามะ ผู้จัดการอาวุโสของ PwC Consulting เชื่อว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกยุคดิจิทัลขนานใหญ่อันมีตัวไวรัส COVID-19 เป็นตัวกระตุ้น ได้นำไปสู่การใช้บล็อกเชนเพื่อจัดการรับมือกับการกลโกงทั้งหลายบนโลกออนไลน์ และเขายังได้เรียกร้องให้บรรดาบริษัทหันมาใช้บล็อกเชนเพื่อปกป้องข้อมูลการทำธุรกิจและการประชุมผ่านระบบออนไลน์ต่าง ๆ ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยกล่าวเน้นย้ำว่าบริษัททั้งหลายควรนำบล็อกเชนมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์แม้การระบาดของไวรัสจะจบสิ้นไปแล้ว
ด้าน เคนตะ อาคัตสึ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท LasTrust สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่น เผยว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดนั้นมีลูกค้าติดต่อเข้ามาหาทางบริษัทมากขึ้น โดยบริษัท LasTrust เปิดให้บริการ CloudCerts ระบบบล็อกเชนที่จัดเก็บและออกใบรับรองดิจิทัล (Digital Certificate) ให้กับทางมหาวิทยาลัยเพื่อออกใบแสดงผลการศึกษาและใบปริญญาให้แก่บรรดานักศึกษาที่กำลังเรียนจบและต่างมองหางานทำอยู่ในช่วงนี้
ขณะที่่ BitFlyer Holdings ได้ประกาศใช้แอปลิเคชันบล็อกเชนที่เปิดทางให้ผู้ถือหุ้นสามารถจัดประชุมและลงคะแนนออกเสียงได้อย่างปลอดภัยผ่านช่องทางออนไลน์ โดยแอปลิเคชันดังกล่าวเชื่อมต่อกับระบบ My Number System ในญี่ปุ่นทำให้เหล่าผู้ถือหุ้นโหวตลงคะแนนทางไกลได้อย่างปลอดภัย โดยทางบริษัทได้ทดลองใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง BitFlyer Holdings มีแผนที่จะขยายการใช้แอปลิเคชันบล็อกเชนตัวนี้ทั่วญี่ปุ่นภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก่อนจะมุ่งหน้าขยายการใช้งานให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียเร็ว ๆ นี้
นอกจากญี่ปุ่นแล้ว หลายประเทศในเอเชียต่างก็ตื่นตัวและหันมาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้นจากการระบาดของ COVID-19 เช่นกัน
อย่างในประเทศสิงคโปร์ บริษัท Agrocorp International ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทสหรัฐฯ Cargill บริษัท Dltledgers สตาร์ทอัพบล็อกเชนของสิงคโปร์ และบริษัทด้านขนส่งโลจิสติกส์หลายแห่ง ในการเฝ้าระวังการติดขัดของห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) ในภาคการเกษตรจากการที่หลายประเทศต้องเผชิญกับภาวะล็อกดาวน์ โดย Agrocorp International ระบุว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยย่นระยะเวลาการชำระเงินในธุรกรรมระหว่างประเทศจาก 1 เดือนเหลือเพียง 5 วัน
ส่วนในประเทศจีน Xiang Hu Bao แพล็ตฟอร์มประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Alibaba Group Holding ได้ออกนโยบายจ่ายเงินชดเชยมากถึง 100,000 หยวน (ราว 448,010 บาท) ให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 และเพื่อป้องกันการหลอกลวงและจัดการเรื่องความโปร่งใสอันเป็นอุปสรรคหลักของการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการจริง ๆ ทางโฆษกของบริษัทเผยว่า Xiang Hu Bao ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนของ Alipay ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถยืนยันความโปร่งใสในการดำเนินการโอนเงินถึงกว่า 1,000 ล้านครั้งต่อวันได้
ที่มา: Source
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ธนาคารแห่งประเทศไทยเล็งใช้สกุลเงินบาทดิจิทัลกับ DeFi