ประเทศเอสโตเนียได้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทด้านคริปโตนับร้อยหลังเกิดคดีฟอกเงินครั้งใหญ่ในยุโรปที่มีมูลค่ากว่า 220,000 ล้านดอลลาร์ จากการรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
เอสโตเนีย ถือเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อธุรกิจคริปโตและเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ จากสหภาพยุโรปที่ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจด้านคริปโตอย่างถูกกฎหมาย แต่ก็ต้องถูกบังคับให้ปิดกิจการลงบางแห่งหลังพบว่ามีเงินที่ได้มาอย่างไม่สุจริตอยู่ในสาขาของธนาคาร Danske Bank A/S ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของเดนมาร์กที่ตั้งอยู่ในประเทศเอสโตเนียนับแสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้กลายเป็นที่จับตามองของคดีฟอกเงินครั้งใหญ่นี้
Madis Reimand หัวหน้าฝ่ายข้อมูลการเงินของกลุ่มประเทศบอลติกเปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะทำการระงับใบอนุญาตบริษัทด้านคริปโตที่ต้องสงสัยว่าละเลยการตรวจสอบธุรกรรมของลูกค้า
นอกจากนี้บริษัทคริปโตที่ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ภายในหกเดือนหลังจากที่ได้รับไลเซนส์จะต้องถูกถอนใบอนุญาต ซึ่งมีจำนวนกว่า 500 บริษัทคิดเป็นถึงหนึ่งในสามของจำนวนบริษัทด้านคริปโตทั้งหมดที่จดทะเบียนในประเทศเอสโตเนีย
เขายังกล่าวอีกว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกในการปราบปรามเท่านั้น นโยบายต่อไปคือการเพิ่มความเข้มงวดกับการออกใบอนุญาตมากขึ้นและจะออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทที่ให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศเท่านั้น
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : สิงคโปร์ตกเป็นเหยื่อการโจมตี Cryptojacking มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน