fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

HTC เปิดตัว “Exodus 5G Hub” เราเตอร์ 5G แบบพกพา ที่สามารถรัน Bitcoin Node ได้!

Image Source: HTC

เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2019 ที่ผ่านมา ในงาน Lightning Conference ที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมัน ทาง HTC ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์และโทรศัพท์มือถือชื่อดังระดับโลก ประกาศเปิดตัวโทรศัพท์มือถือบล็อคเชน ที่มีชื่อว่า “Exodus 1s” ที่รองรับการเปิด Bitcoin Full Node ซึ่งผู้ใช้งานสามารถช่วยยืนยันการทำธุรกรรมบนเครือข่ายของ Bitcoin ได้ รวมถึงยังมีระบบ Hardware Wallet แบบ built-in ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บเหรียญเงินดิจิทัลของพวกเขาได้อีกด้วย และต่อมา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019 ทาง HTC จับมือ Binance ผู้ให้บริการด้านกระดานซื้อขาย Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก เปิดตัวโทรศัพท์มือถือบล็อคเชนรุ่นปรับปรุงใหม่ “Exodus 1 – Binance Edition” ที่ได้รับการอัพเกรดจาก Exodus 1 และตัวรุ่นน้องอย่าง Exodus 1s โดยจะสามารถรองรับการใช้งานเว็บกระดานซื้อขายคริปโตแบบ Decentralized ของ Biannce ที่มีชื่อว่า Binance DEX ได้อีกด้วย ซึ่งที่น่าสนใจคือ โทรศัพท์มือถือบล็อคเชนตัวใหม่นี้ จะมีแอพฯสำหรับเทรดของ Binance ติดเครื่องมาให้เลย รวมถึงมีแอพฯกระเป๋าเก็บเหรียญที่ชื่อว่า TrustWallet มาให้อีกด้วย

หลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว HTC ประสบความสำเร็จในโทรศัพท์รุ่น Exodus 1 ที่ผู้ใช้งานสามารถเปิด node เพื่อช่วยยืนยันการทำธุรกรรมบนเครือข่ายของ Bitcoin ได้ ล่าสุด มีรายงานล่าสุดจากทางบริษัท HTC ว่าได้ประกาศเปิดตัวสายการผลิตของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีการนำเทคโนโลยีบล็อคเชน และสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์หลักในการใช้งานอย่าง “Exodus 5G Hub” เครื่องกระจายสัญญาณอินเตอร์เนต 5G แบบพกพา ที่มีฟีเจอร์เน้นความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรัน “Bitcoin Full Node” ได้ง่าย ๆ จากที่ไหนก็ได้

ฟีเจอร์หลักของเจ้า Exodus 5G Hub

โดย Exodus 5G Hub ที่เตรียมจะทำการเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้นั้นสามารถปล่อยสัญญาน 5G กับทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต และยังมีซอฟต์แวร์ของ Zion Vault เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเก็บ Bitcoin, Ethereum (รวมถึงโทเค็น ERC-20 และ ERC-721), Binance Coin, Litecoin และ Stellar ได้ ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีฟีเจอร์ความปลอดภัย อย่างเช่น Social Recovery สำหรับ Private Keys ที่ผู้ใช้สามารถแบ่ง Recovery phases หรือคำรหัสลับที่ใช้ในการเข้าถึงบัญชีคริปโตฯให้แก่กันในระหว่างกลุ่มเพื่อนได้ 

Exodus 5G Hub มีลักษณะหน้าตาคล้ายกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ โดยมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว และอัดแน่นไปด้วยแอพฯที่เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ประกอบไปด้วยบริการอีเมล ProtonMail, บราวเซอร์ Brave และ decentralized VPN Incognito โดยเจ้าเครื่องนี้ได้มีการนำระบบ VPN เข้ามาใช้ เพื่อสร้างช่องทางการเชื่อมต่อที่มีความเฉพาะตัวสำหรับแต่ละเครื่อง และยังได้นำแพลตฟอร์มบราวเซอร์ Brave ซึ่งผู้ใช้บราวเซอร์ตัวนี้สามารถเลือกรับโทเค็น BAT เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการดูโฆษณาใด ๆ บนอินเตอร์เน็ตได้ 

ให้ความสำคัญกับ Privacy

โดยทาง HTC เผยว่า อุปกรณ์ Exodus 5G Hub นั้นมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่า Amazon Alexa หรือ Google Nest และเป็นเครื่องมือต่อกรชั้นยอดกับพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คอยตามเก็บข้อมูลของคุณ

ทางด้าน Phil Chen หัวหน้าเจ้าหน้าฝ่าย Decentralized ของ HTC กล่าวว่า “Exodus นั้นเน้นเรื่องเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นรหัสลับ ข้อมูล หรือความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดย Exodus จะเป็นเกราะป้องกันการล้วงข้อมูลของเหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ซึ่งการใช้งาน Exodus 5G Hub จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมและเป็นเจ้าของข้อมูลของคุณได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”

นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวอีกว่า “ปัจจุบันทุก ๆ แอพฯมักบอกผู้ใช้ว่า พวกเขากำลังใช้ end-to-end encryption หรือ software key เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ข้อมูลหรือการส่งข้อความของผู้ใช้ แต่เมื่อคุณใช้ software key เหล่านั้น ก็เท่ากับว่ากุญแจนั้น ๆ ของคุณเข้าไปอยู่ในระบบ operating system แล้ว และบริษัทก็จะสามารถเข้าถึงมันได้”

Exodus 5G Hub

Image Source: HTC

ข้อมูลสเป็คและราคา

สำหรับคุณสมบัติของเครื่องกระจายสัญญาณ Exodus 5G Hub นั้น ทางด้านฮาร์ดแวร์ยังคงใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855 ในการประมวลผลคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า โดยตัวอุปกรณ์ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 มีหน่วยความจำ 4GB, มีช่องเสียบ microSD ช่องเสียบ nano SIM พอร์ต Gigabit Ethernet และแบตเตอรี่ความจุถึง 7,660mAh 

อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อมูลด้านเทคนิคและคุณสมบัติต่างๆ ของอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว ทาง HTC ยังไม่ได้มีการเปิดเผยราคาขอ Exodus 5G Hub แต่อย่างใด โดย HTC Hub รุ่นเก่านั้นมีราคาอยู่ที่ $600 ดอลลาร์ 

ทั้งนี้ การเปิดตัวอุปกรณ์ดังกล่าวนั้น ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีอิทธิพลต่อตลาดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นและส่งผลต่อการใช้งานอย่างแพร่หลายได้ในอนาคต

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Samsung จับมือกับ Credorex ตีตลาดร้านค้าและธนาคารในยุโรป

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN